เมื่อวานนี้เราได้ขับรถคันที่ไม่ได้ขับมานาน
เป็นรถกระบะเกียร์กระปุกคันใหญ่มากๆ
ซึ่งปรกติเราจะไม่ขับคันนี้เด็ดขาด
เพราะมันขับยากมาก
แถมครั้งแรกที่ได้ขับนั้น ก็ไปเฉี่ยวมาแล้วด้วย
เพราะเรามีความจำเป็นต้องขับ ก็ใจตุ้มๆต่อมๆ ทั้งวัน
อาการต่างๆ ของมือใหม่ปรากฏออกมามากมาย
ทั้งสตาร์ทแล้วพุ่ง ดับกลางสี่แยก ลืมเปิดไฟ รถไหลลงเนิน
ไปจนถึงตอนดึกที่ขับชนเสาล้มลงหนึ่งต้น
อีกแล้วหรอ ...เฮ้อ
เหตุการณ์เกิดขึ้นตอนที่ขับรถลงเนิน
เราลดเกียร์ลงเป็นเกียร์สอง เพื่อลดความเร็วของรถ
ทางตอนนั้นมืดมากๆ ไม่รู้ว่าไฟดับหรือดับไฟกันแน่
เราเปิดไฟสูงเพื่อให้เห็นทางได้ง่ายขึ้น
แต่ไฟสูงก็ไม่สามารถช่วยให้มองเห็นด้านข้างได้ดีขึ้นเท่าไหร่
แถมคานรถฝั่งขวาคนขับนั้น ก็บดบังการมองเห็นไปหมด
มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่โดนเตือนว่า แถวนี้มีแสานะ
แต่ยังไม่ทันขาดคำ รถก็ชนเสาล้มไปซะแล้ว...
ตั้งแต่ขับรถจริงจังๆ มาได้หกเดือน เราขับรถไปเฉี่ยวชนมาแล้วถึงหกครั้ง
ไม่รู้ว่าเรามองโลกในแง่ดีหรือว่าเข้าข้างตัวเองมากเกินไปมั้ย
แต่ทุกครั้งที่เราขับรถไปชนนั้น ไม่เคยชนซ้ำที่จุดเดิมเลย
และที่สำคัญ ทุกครั้งที่เกิดเรื่อง คู่กรณีคือเสาทั้งนั้น ไม่มีคนเคยโดนเราขับชนด้วย
ใครหลายคนที่ขับรถแล้วต้องได้เฉี่ยวได้ชนบ่อยๆ อาจจะหวาดกลัวการขับรถไปเลย
แต่นั่นไม่ใช่เรา เพราะยิ่งเราขับชนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากฝึกขับรถให้มากขึ้นเท่านั้น
ถึงแม้ว่าเราจะมีโอกาสขับรถไปชนเสาสูงมากก็ตาม
แต่เรามั่นใจว่า จะไม่ชนที่เดิมอีกแน่นอน
และสัญญาว่า จะระมัดระวังให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่ขับรถชนอีก
May 27, 2009
May 18, 2009
พายุ นอนไม่หลับ กลัว
ฉันนั่งอยู่ตรงที่เดิม ที่เดียวกันกับเมื่อสองปีก่อน
แต่กลับให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
"22:45"
ฉันไม่สามารถข่มตาให้หลับลงไปได้
แล้วอยู่ๆ พายุฝนก็ปรากฎตัวขึ้นมา
ฉันทำได้แต่กลัว... กลัวในพลังของมัน
กลัวว่าพายุที่เกิดขึ้นคราวนี้ จะใหญ่ยิ่งกว่าทุกครั้ง
กลัวว่าฉันจะพ่ายแพ้ต่อพายุผนที่โถมกระหน่ำ
กลัวว่าพายุจะทำลายทุกอย่างที่ได้ทำไว้จนหมด
อะไรทำให้เรากลายเป็นคนอย่างนี้ไปได้นะ...
ฉันได้แต่ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้
บางครั้ง การพูดอะไรออกไป อาจทำให้คนเข้าใจผิด
แต่ทุกครั้งที่ไม่ได้พูดอะไร มันทำให้คนเข้าใจผิดยิ่งกว่า
และท่าทางว่า มันจะเป็นต้นตอของพายุครั้งนี้ด้วย
ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นหนทาง ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี
สองสิ่งที่หวังไว้ ขอให้ฝนเบาลง เผื่อจะเห็นทางข้างหน้า
และขอให้ไม่ล้มหมอนนอนเสื่อเสี่ยก่อนที่จะได้เห็นฝนหยุด
เพราะยังไงก็ตาม ฉันยังคงเชื่อมั่นว่า
เมื่อฟายุฝนได้ผ่านพ้นไปแล้ว
ท้องฟ้านั้นย่อมสดใสสวยงามเสมอ
"1:11"
ถ้าเธอยังอยากก้าวเดินไปด้วยกัน
ขอให้เธอเชื่อมั่นและไว้ใจ
ฉันพร้อมจะก้าวเดินไปกับเธอเสมอ
แต่กลับให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
"22:45"
ฉันไม่สามารถข่มตาให้หลับลงไปได้
แล้วอยู่ๆ พายุฝนก็ปรากฎตัวขึ้นมา
ฉันทำได้แต่กลัว... กลัวในพลังของมัน
กลัวว่าพายุที่เกิดขึ้นคราวนี้ จะใหญ่ยิ่งกว่าทุกครั้ง
กลัวว่าฉันจะพ่ายแพ้ต่อพายุผนที่โถมกระหน่ำ
กลัวว่าพายุจะทำลายทุกอย่างที่ได้ทำไว้จนหมด
อะไรทำให้เรากลายเป็นคนอย่างนี้ไปได้นะ...
ฉันได้แต่ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้
บางครั้ง การพูดอะไรออกไป อาจทำให้คนเข้าใจผิด
แต่ทุกครั้งที่ไม่ได้พูดอะไร มันทำให้คนเข้าใจผิดยิ่งกว่า
และท่าทางว่า มันจะเป็นต้นตอของพายุครั้งนี้ด้วย
ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นหนทาง ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี
สองสิ่งที่หวังไว้ ขอให้ฝนเบาลง เผื่อจะเห็นทางข้างหน้า
และขอให้ไม่ล้มหมอนนอนเสื่อเสี่ยก่อนที่จะได้เห็นฝนหยุด
เพราะยังไงก็ตาม ฉันยังคงเชื่อมั่นว่า
เมื่อฟายุฝนได้ผ่านพ้นไปแล้ว
ท้องฟ้านั้นย่อมสดใสสวยงามเสมอ
"1:11"
ถ้าเธอยังอยากก้าวเดินไปด้วยกัน
ขอให้เธอเชื่อมั่นและไว้ใจ
ฉันพร้อมจะก้าวเดินไปกับเธอเสมอ
Subscribe to:
Posts (Atom)