ตอนไปยืมวันแรกๆ ที่เปิดเทอม ก็บอกว่ายังไม่ได้จ่ายตังค์ค่าเทอม ยังยืมไม่ได้ ... เอ่อ พี่ครับ ที่นี่เค้าเปิดเทอมก่อน จ่ายตังค์สัปดาห์ที่สองโว้ย ให้รอสัปดาห์หน้าลูกเดียวเลยหรือไงวะ
สัปดาห์ถัดมา จ่ายตังค์ค่าเทอมเรียบร้อยหนังสือที่จะยืมตั้งแต่คราวแรกแม่งหายอีก ไม่มีระบบจองหนังสือหรือไงวะ
เอ่อ งั้นยืมเล่มอื่นที่แก้ขัดก็ได้ พอหาหนังสือที่ต้องการเจอ แม่งเชี้ย บอกห้องสมุดปิดให้ยืมแล้ว มึงใช้เวลา shutdown เครื่องยืมหนังสือ 15 นาทีหรือไงวะ เวลาเลิกยืมก่อนห้องสมุดปิดถึงกินเวลานานขนาดนั้นเนี่ย
เอาใหม่ อีกวันนึงเอาใบเสร็จค่าเทอมไปยืมจนสำเร็จ ระหว่างนั้นก็ไปออกบัตรนศ.ใหม่ด้วย เพราะใบเก่าหมดอายุ
... ผ่านไปสองอาทิตย์อ่านหนังสือจบ เอาไปคืน เห็นเล่มที่จะยืมตั้งแต่คราวแรกพอดี เลยหยิบไปเคาน์เตอร์ แม่ง บอกบัตรนศ.กูเป็นบัตรใหม่ บัตรมันไม่ link กับบัตรเก่า ยืมไม่ได้ ต้องไป activate บัตรที่สำนักทะเบียนก่อน
ห่าเอ้ย หมดความอดทนแล้วโว้ย
Jul 10, 2012
Jul 8, 2012
ข้าวมันไก่?
สั่งหมีขาวน้ำตก... บอกว่าร้าน "ไม่น่า" จะมี เอาเป็นเย็นตาโฟแทนมั้ย (ตรูไม่กินเย็นตาโฟเว้ย เอาแบบธรรมดามาไม่ได้เหรอ -- ว่าแต่ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ไหนบ้าง ที่ไม่มีน้ำตกเนี่ย)
เอาใหม่ สั่งข้าวมันไก่ทอด... ได้ข้าวมันไก่ต้ม (ทั้งๆ ที่คราวนี้ร้านมันแขวนไก่ทอดไว้ข้างๆ กันเลย) - -"
ก็พอเข้าใจแล้วหละ ว่าทำไมตัวเองถึงติดคำว่า "อะไรก็ได้" ไปเสียหมด
ไม่ใช่ไม่อยากคิด (โว้ย) แต่พอคิดทีไร แม่ง "ไม่เคย" ได้อย่างคิดเลย
เอ่อ ไม่คิดดีกว่าหวะ
เอาใหม่ สั่งข้าวมันไก่ทอด... ได้ข้าวมันไก่ต้ม (ทั้งๆ ที่คราวนี้ร้านมันแขวนไก่ทอดไว้ข้างๆ กันเลย) - -"
ก็พอเข้าใจแล้วหละ ว่าทำไมตัวเองถึงติดคำว่า "อะไรก็ได้" ไปเสียหมด
ไม่ใช่ไม่อยากคิด (โว้ย) แต่พอคิดทีไร แม่ง "ไม่เคย" ได้อย่างคิดเลย
เอ่อ ไม่คิดดีกว่าหวะ
One More Time, One More Chance
วันนี้หยิบเอา 5cm ฉบับการ์ตูนที่เพิ่งออกมาอ่าน พบว่า part 1 เนือยๆ ทำบรรยากาศได้ดีเหมือนกับในหนัง คือก็ไม่น่าเบื่อซะทีเดียว แต่ก็เหมือนว่าตอนนี้ไม่มีจุด peak เอาซะงั้น (มันหลบหายไปพร้อมกับการแสดงออกของตัวเอกนั่นแหละ)
อ่านจบ part 1 จะวางละ ง่วงนอน+ดูจากความหนาแล้ว part 2 ไม่น่าจะเล่าจบได้ในเล่มนี้... แล้วเล่มต่อไปจะออกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กลัวลงแดงตายซะก่อน...
แต่จนแล้วจนรอด ก็หยิบ part 2 มาอ่านต่อจนได้ ซึ่งต้องยอมรับว่า ประหลาดใจ (แบบไม่ประหลาดใจ) พอสมควร เพราะเนื้อเรื่องเล่าไว้ละเอียดกว่าในหนังมากๆ (ก็ไม่น่าแปลก part 1 ในหนังได้เวลาไปตั้งครึ่งนึงเลย part 2, 3 ก็โดนตัดฉับๆๆ ซะ)
อ่านจบเล่ม (แต่ไม่จบ part) ทนไม่ไหว มาเปิดอ่านภาษาอังกฤษในเน็ตต่อซะ เลยเข้าใจเรื่องราวขึ้นอีกเยอะเลย
และเสียน้ำตาอีกตามเคย TwT
ไปๆ มาๆ รู้ตัวอีกทีก็นั่งดู MV ตัวข้างบนอีกแล้ว...
รถไฟที่วิ่งคั่นกลางระหว่างคนสองคนนั้น ก็ยังคงเป็นฉากที่ทำให้ใจจะขาดเหมือนเช่นทุกที
... แต่จริงๆ แล้วนะ การดับความหวังไปซะเลย ก็ยังดีกว่าปล่อยให้หวังลมแล้งๆ แทบไม่มีทางเป็นจริงสินะ
สุดท้ายก็ได้แต่กลับมาถามตัวเองอีกครั้งว่า ถึงเวลาที่จะก้าวเดินต่อไปหรือยัง?
ปล. อันข้างล่างนี่ สำหรับใครที่อยากให้จบแบบ happy ending นะ :')
Subscribe to:
Posts (Atom)