Jan 28, 2007

รำลึกถึง Diary เก่า

ไม่มีอะไรหรอก แค่เปิดคอมหาไฟล์เก่าๆ แล้วมันจี๊ดอะ T_T เลยเอามาลงไว้ให้อ่านกันเล่นๆ นะครับ อิอิ

ปล.สาเหตุที่ตอนนั้นเลิกเขียน เพราะว่าเว็บ (ไดอารีฮับ) มันเกิดปัญหาขึ้นอะ




8 ม.ค. 48
เซ็งมากๆ
กันยายน 2547 ประมาณ 5 เดือนก่อน

ถ้าจำไม่ผิดอะนะ น่าจะเป็นช่วงก่อนปิดเทอม 1 ตอนที่ผลการสอบม.4 ยังไม่ออกอะ แล้วก็มีโครงการ NSC ซึ่งเป็นของ Nectec อะ เป็นโครงการระดับประเทศ คือให้เขียนโครงการ แล้วก็ไปพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มา ถ้าเขียนโครงการรอบแรกผ่าน ก็ได้ตังค์ 5,000 มา แต่ถ้าไม่ทำงานก็ต้องคืนตังค์นะ ถ้าเขียนโปรแกรมผ่าน ก็ได้อีก 8,000 แล้วก็มีสิทธิ์เข้ารอบระดับประเทศ ชิงตัง 60,000 ด้วย แล้วใครที่เข้าระดับประเทศ (ของภาคเหนือ) ก็มีสิทธิ์เดินเข้ามช. คณะวิทย์-คอมสบายๆ ในการแข่งนั้น จะแบ่งได้ 3-4 หมวดใหญ่ๆ คือ การศึกษา ความบันเทิง การใช้งาน แล้วการให้คะแนนในแต่ละหมวดก็คิดไม่เหมือนกัน เช่น บันเทิง จะเน้นความสวยงาม การศึกษาเน้นเรื่องความรู้ แล้วก็ยังแยกระดับอีก คือ มัธยมก็แข่งกันเอง มหาลัยก็แยกไปอีกส่วน ตอนนั้นผลการสอบยังไม่ออกนะ แล้วไอ้กบมันก็มาหาเรา บอกเราว่าเฮ้ย! ทะไมคะแนนมันได้น้อยจังวะ พูดแบบคนกลัวไม่ติดม.4 อะ สำหรับเราแล้ว การติดม. 4 มันก็ไม่ค่อยสำคัญมากเท่าไหร่ คือเราอยากทำกิจกรรมมากกว่าอะนะ เล่นโกะ แข่งคอม โอ้ย! มัความสุขที่สุดดดดดดดดดดด พูดง่ายๆ อะนะ เรามันเด็กกิจกรรม แต่ใครๆ ก็มองว่าเราก็เรียนใช้ได้ เราก็ไม่ค่อยชอบมากหรอก ที่บอกว่าเราเรียนดีอะ เพราะว่าเกรดมันมีแต่ตก กะ ตก ไม่เคยขึ้น จริงอยู่ที่ได้ 3.5 แต่เราก็ไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่อยากเรียนเต็มที่ คือม. 3 อะ มันเป็นปีสุดท้ายแล้ว ที่จะได้ทำกิจกรรมแบบเต็มที่ ถ้าขึ้นไปม. 4 คงไม่มีเวลาทำกิจกรรมแล้ว เราก็สงสารเพื่อน เอ้า! ในเมื่อมันอยากติดม.4 (ทั้งๆ ที่เราก็กล้ารับประกันเลยว่า อย่างไรมันก็ติดม.4 แน่ๆ ไม่ใช่ว่าเราจะมาพูดตอนที่มันติดแล้วนะ แต่เรากล้าพูดตั้งแต่ตอนผลยังไม่ออก จริงๆ นะ) แล้วด้วยไอ่ความที่เราชอบกิจกรรม บวกกับมันเก่งคอมอยู่แล้ว เราก็เลยบอกไปว่ามีโครงการ NSC นะ มันก็รู้อยู่แล้วว่ามี NSC แต่เราพูดเพื่อที่จะชวนมันมาอยู่ทีมเดียวกัน สร้างโปรแกรม หรือเขียนเว็บขึ้นมา เอาไปแข่งกะคนอื่นๆ เราก็พูดตามความเห็นของคนที่คิดว่า ถ้าทำกิจกรรมดี หรือไปได้รางวัลอะไรมาเนี่ย ก็น่าจะติดม. 4 ได้ สรุปว่าถ้างานนี้เวริค ก็เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว คือ ติดม. 4 ด้วย ได้ตังค์ด้วย มีสิทธิ์เข้ามช. ง่ายๆ เลยด้วย

สรุปว่าตกลง เราก็เริ่มคิดโครงการที่จะเขียนส่ง อ๋อ! เพื่อนร่วมทีมอีกคนคือ ไอ้เอคิดไปคิดมาก็เลยเลือกหมวด การศึกษา เพราะว่าในทีมคิดว่า ถ้าเลือกบันเทิงท่าจะยาก เนื่องจากไม่มีใครตกแต่งเก่ง เลยเลือกการศึกษาดีกว่า เราก็ไปคิดต่อ สรุปว่า จะเขียนเว็บ เรื่องสามก๊ก ตอน จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า เพราะว่าถ้าเสร็จ จะได้ใช้เป็นสื่อการสอนภาษาไทยเลย แล้วก็จะทำเกมด้วย เวลาเล่นจะได้สนุก เพราะว่าอ่านสามก๊กมันยาก ในทีมก็ตกลง แต่ว่าไอ้กบอยากให้เราเพิ่มเรื่องให้ครอบคลุมสามก๊กทั้งหมด เพราะเรารู้เรื่องสามก๊กดี แล้วก็โครงการนี้มันใหญ่ ถ้าเอาแค่ตอนสั้นๆ ตอนเดียว กรรมการอาจไม่พิจรณา แน่นอน ถ้าเพิ่มเรื่องก็ต้องทำเกมยาวขึ้นด้วย แล้วก็ขอให้เป็นเกม 3D อีก เราก็เอา ไอ้เอก็เอาเราก็เขียนโครงการส่ง เรานอนดึกตั้ง 2 วัน เพื่อเขียนโครงการให้เสร็จ และวันสุดท้ายก่อนส่งเราก็ไม่ได้เรียนทั้งวัน เพื่อเกลาคำที่เขียน ตรวจความผิดพลาด ฯลฯ พอดีตอนนั้นมีโครงการเขียนเว็บส่งไมโครซอฟท์อีก เราจะไม่เล่าตรงนี้ยาวมาก แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวกะเรื่องทั้งหมด โรงเรียนเราส่ง 2 กลุ่ม กลุ่มเรามี เรา กะไอ้ไห่กะน้องอีก 2 คน อีกกลุ่มมี อุ๊ ไอซ์ อาย (ครอบครัวตัว อ) ก็คือ เราต้องเขียนเว็บ OTOP ส่ง เรารู้ตัวก่อนให้ส่งงานแค่ 4 วัน แล้วเราก็เลยทำงานดึกที่โรงเรียน (ออกจากโรงเรียนตอนตีหนึ่ง) แล้ววันสุดท้ายกำหนดส่งงานตอนเย็น แต่จะว่าโชคดีหรือร้ายก็ไม่รู้ เพราะว่าวันนั้นโรงเรียนปิด โดนน้ำท่วม (ถ้าจำไม่ผิด วันที่ 8 ตุลาคม 2547) กลุ่มเราเลยไปอยู่ห้องคอมทั้งวัน โดยไม่ต้องไปเรียน งานเลยเยี่ยม (ขอแทรกนิดส์ ตรงนี้เราว่าเป็นเพราะแม่เราแน่ๆ เลย เพราะก่อนหน้าวันที่โรงเรียนจะปิด แม่เราขับรถเข้ามา แล้วรถมันดันดับคาโรงเรียน เพราะลุยน้ำมามั้ง โรงเรียนเลยปิดแบบที่ไม่เคยปิดมาก่อน) เอ้า! ต่อๆ หลังจากทำงานนี้เสร็จแล้วก็สอบ ปิดภาคเรียนที่ 1 ระหว่างปิดเทอมเล็กนี้ก็รู้ว่าโครงการ NSC ติดแล้ว ก็เลยเริ่มทำงานไปเรื่อยๆ ว่างก็ย่อเรื่องบ้าง ออกแบบเกมบ้าง พอเปิดเทอม 2 ปุ๊ป (26 ตุลาคม 2547) เราก็ไปเข้าค่ายที่กทม.ปั๊บ ค่ายไมโครซอฟท์นั้นแหละ เพิ่งมารู้ไม่กี่วันก่อนไป เลยได้นั่งรถไฟแบบปรับนอนไม่ได้ แต่ขากลับก็ดีหน่อย ที่นอนได้ กลับถึงเชียงใหม่ประมาณเช้าๆ (29 ตุลาคม 2547) ก็เป็นวันประกาศผล แต่เราไม่ไปเรียนหรอก ขอนอนอยู่บ้าน พอตอนเย็น เราก็เลยแวะไปโรงเรียนเอาผลสอบ ไม่น่าเชื่อ เราติดม. 4 สายวิทย์ ไอ่กบกะไอ่เอก็ติดวิทย์เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ได้ทำงาน NSC ต่อ เพราะว่าไม่มีใครยอมอ่านเรื่องสามก๊กเลย เราเป็นคนเดียวที่อ่านจบแล้ว แต่ว่า 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ เราก็ต้องกลับมาแก้ไข เพิ่มเติมงานส่งไมโครซอฟท์อีกรอบ เพื่อแข่งชิงเงิน 100,000 ตอนทำงานไมโครซอฟท์นั้นนะ เราเสียดายเวลามาก คือเงินไม่ค่อยสำคัญอะ เราอยากทำ NSC มากกว่า แต่ต้องมาทำงานไมโครซอฟท์ แล้วก็ตัดต่อรูปวันสโมสรวิทยาอีก ตอนนี้ทำ 2 งานในเวลาเดียวกัน แล้วตอนวันเกิด ก็ดันไม่สบายอีก หายไป 1 วัน เซ็งมากๆ

12 พฤศจิกายน 2547

โอ้! วันนี้มันเป็นวันที่ สุดยอดมากๆ เลย คือมันเป็นวันที่ต้องส่งงานไมโครซอฟท์ แล้วก็มีงานสโมสรด้วย เราไม่ได้แสดงนะ แต่ต้องควบคุมคอมอะ แล้วก็ต้องทำงานด้วย คือต้องทำ OTOP เสร็จก่อนเที่ยง แล้วก็ต้องวิ่งไปเตรียมตัวงานสโมฯ จาบ้าตาย แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีอะนะ เอ้า! ทุกงานเสร็จหมดแล้ว ผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว ตอนนี้ก็จะได้ทำงาน NSC ซักกะที
เราก็ไปบ้านไอ้กบตั้งหลายครั้งนะ จะไปทำงาน NSC เนี้ยแหละ แต่พอไปถึงทีไร ก็ต้องไปฟังมันบ่นว่าคะแนนสอบย่อยน้อย (ขนาดได้ที่ 1-3 ของห้องตลอด เรายังทำไม่ได้เลย) ทั้งๆ ที่ติดม. 4 แล้ว จะไปเรียนทำมาย มันบอกจะเอา 4 จุด ให้ได้เลย เราก็รู้สึกไม่ค่อยดีที่จะชวนมันทำ ถ้ามันอยากจะเรียนก็ปล่อยมัน ไม่รู้ดิ เราอาจจะไม่กล้าพอที่จะชวนมันทำงาน แล้วมันก็ไม่เคยที่จะชวนเราทำเลย ทั้งๆ ที่มันน่าจะรู่ว่าเรามาบ้านมันทำไม เราหิ้ว Notebook ไปแล้ว มันจะได้ไม่อ้างเรื่องคอมเสีย ในเครื่อง Notebook ก็ไม่ค่อยมีเกม เราก็เปิด VB รอ ดูดิว่าเมื่อไหรมันจะรู้ตัว มันก็ไม่เคยคิดจะทำ

1 ธันวาคม 2547

ไปกทม. อีกละ OTOP ได้ที่สาม ได้มาตั้ง 30,000 (หาร 4 คน) แล้วก็ได้ถ่ายรูปคู่กะคุณฮาร์ทด้วย ดาราในดวงใจเลยนะเนี้ย ขอบอกๆ แต่กลุ่มอุ๊ได้ 100,000 หวะ (หาร 3) ช่างมัน เพราะยังไงๆ งานนี้เราโดนฉุดมาทำอยู่แล้ว ไม่ได้ไปค่ายบูรณาการ ต้องกลับมาทำงานแบบไม่รู้ เรื่อง

ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนส่ง NSC

เฮ้อ! มันคงรู้ตัวแล้วหละสิ มันก็เลยขอให้เราไปบ้านมันตอนวันเสาร์ แม่ง! อีก 2 สัปดาห์จะส่งอะนะ แล้วเรื่องสามก๊กก็ไม่ใช่สั้นๆ ด้วย ทำไมไม่ชวนก่อนหน้านี้ซักเดือนครึ่งวะ ตอนนี้มันสายไปแล้ว ทำทั้งวันยังไม่ทันเลย แค่ย่อเรื่องก็ยากแล้ว ไหนจะพิมพ์อีก ไหนจะทำเกมอีก ไม่มีวันทัน ยังไงๆ ก็ไม่ไป นอนอยู่บ้านดีกว่า จะได้เคลียงานด้วย ได้ซ้อมโกะด้วย เพราะอีกไม่นานก็มีแข่งโกะอีก

ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนส่ง

ตอนเย็นที่ โรงเรียนหนะ นั่งอยู่ดีๆ ก็มีเสียงลากดังมากเลยว่า “ไอ่เพื่อนทรยศ...............” ใครที่คบกะไอ้กบจะรู้ดีว่าเสียงแบบเนี้ย ไม่ใช้ใครอื่น ฟิวส์ขาดแล้วนะว่อย กูน่าจจะเป็นคนพูดคำนี้มากกว่า ใครที่มันไม่ยอมทำงานวะ ปล่อยให้เราทำคนเดียวตั้งนาน บอกให้มันไปทำอาวุธมา ง่ายๆ เนี่ย มันก็ยังไม่ทำ เราต้องย่อเรื่อง วางโครงเกม ทำตัวละคร ฯลฯ เยอะแยะ แม่ง มาพูดแบบนี้ พูดแบบไม่เคยดูตัวเองเลยอะ ก็เลยเดินลงไปที่ห้องมัน จะด่ามันต่อหน้าก็ไม่อยากทำอีก เลยทำเป็นเดินแล้วพูดดังๆว่า “คนที่มันทรยศหนะ คือคนที่ปล่อยให้เพื่อนทำงานแค่คนเดียว” ไม่รู้นะว่ามันคิดไง ช่างมัน

วันที่ 6 มกราคม 2548

กลับบ้านดึกตามเคย เพราะต้องอยู่โรงเรียนช่วยน้องๆ ทำ NSC เห็นแล้วอิจฉา รู้สึกว่าอะไรที่อยากทำมันไม่ได้ทำ แต่ต้องมาช่วยคนอื่นตลอด ที่ช่วยก็ไม่มีไรมาก วาดรูปกะทำ Flash ให้ พอกลับมาก็ไม่ได้นอน ต้องมาทำงานบูรณาการที่ดองไว้อีก เข้าวันใหม่โดยไม่รู้ตัว

วันที่ 7 มกราคม 2548

วันนี้แล้วสิ งานบูฯ นี้มันยากมากๆ ในที่สุดก็เสร็จ ขอหลับสักงีบเถอะ ดูเวลาก็ตีสี่กว่าๆ แล้ว ลงไปกองกะพื้นเลย พอตอนเช้าตื่นขึ้น อ่าว 7.30 แล้ว รีบไปโรงเรียนเลย ถ้าพวกที่ทำ NSC ครูนัดว่าไม่ต้องเข้า Ethic ไปห้องคอมเลย เราตัดใจไปแล้ว ช่างมัน แต่ก็ยังเดินไปห้องคอมอยู่ ความจริงก็ไม่อยากเรียน ง่วงนอนมากๆ พอไปถึง อ่าว มันยังทำกันอยู่ เอ้า ทำก็ทำ ก็แค่พิมพ์รายงานส่งแค่นั้นเอง พอทำไปทำมา เฮ้ย อันเดียวกันกะที่พิมพ์มาแล้วนิเติมนิดเดียวก็เสร็จ แต่อยู่บ้าน ตายหละ อึ่ม คิดๆๆๆ อ๋อ ยังเหลือใน Notebook อยู่ พ่อเอาไปใช้ที่ต่างจังหวัด อึ่มๆ ก็เลยโทรไปบอกให้พ่อส่งงานมาทาง e-mail ก็ใช้ได้ พอได้งานแล้ว ไอ่กบพูดว่าไงรู้มั้ย (ความจริงมันก็บ่นมานานแล้ว) “เฮ้อ ไม่ได้เรียนอีกแล้ว คาบคณิตซะด้วย ไอ่กอล์ฟ ได้ไฟล์มาแล้ว ทำคนเดียวได้มั้ย” เฮ้อ ขนาดวันสุดท้ายแล้วมันยังจะห่วงเรียนอีก ช่างมัน จะเรียนไปจนขนาดไหนก็ช่างมัน ก็บอกว่าถ้าอยากไปก็ไป (ขอแทรกอีกนะ ม. 3 กันแล้ว หัดเข้าใจคำประชดกันบ้างเถอะ ข้อร้อง) โอเค มันก็ไปเรียน เราก็นั่งพิมพ์งาน หิวก็หิว พอพักสิบโมง ครูอ้อก็สงสัย ว่าไอ่กบกะเอหายไปไหน ก็เลยไปตามมาจากห้องเลย เราก็นั่งพิมพ์ต่อ คือ เราว่ามันเป็นมารยาทอะนะ งานจะส่งอยู่แล้ว ถ้าติดสอบไม่ว่า แต่ถ้าจะเรียนหนะ ขอร้อง มาอยู่ดีกว่า นั่งดูเราพิมพ์ก็ยังดี เผื่อจะได้ใช่งานบ้าง หัดทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้างสิ ไม่ใช่เห็นแก่ตัวอย่างเดียว เอาหละ งานก็เสร็จแล้ว แต่ก่อนที่จะเสร็จ รู้สึกเป็นคาบ 4 มั้ง มันก็พูด “อยู่นี่คงช่วยไม่ได้ แต่จะอยู่เป็นกำลังใจให้” (ครูยืนคุมอยู่หละสิท่า ออกห้องไม่ได้) อีกซักพัก มันก็บอก “อีก 20 นาที เสร็จแล้ว กลับไปเรียนปะเอ” ช่างมัน อยากไปเรียนก็ช่าง ยังจะมีกะจิตกะใจมาเรียนอีก เสร็จซะที จบซะที เฮ้อ! เกมที่มันทำมาอะนะ ห่วยแตกมาก เว็บก็ไม่ดี ส่งไปก็

ขายหน้าเค้า คืนตังค์ 5,000 ชัวร์ ล้านเปอร์เซนต์ พอเข้าห้องก็เซ็ง แม่ง ไม่ได้เรียนมา 3 คาบ ช่างมัน แล้วก็โดนด่าอีก ที่ไม่ได้เอางานบูฯ มา ก็มันลืมอะ ขอโทษนะ เซ็ง กลับบ้านก็ช้าอีก ถึงบ้านตอนสี่ทุ่ม ตอนแรกกะว่าจะพิมพ์แล้วอัพทันวันนี้นะ ไหนได้ พิมพ์ไปพิมพ์มา อ่าว วันใหม่อีกละ

สุดท้ายนี้ ที่เขียนมา ไม่ได้ขอร้องให้ใครมาสงสารเรา เรายังไม่สงสารตัวเองเลย เราเสียดายที่เลือกคนผิดมาอยู่กลุ่มด้วย สรุปที่อยากบอกก็คือ ถ้าไม่อยากบ้าตายนะ อย่าคบกะกบเด็ดขาด

ปล. เรื่องนี้ปัจจุบันผมได้ยกโทษให้มันไปแล้วนะ
แล้วเพื่อนผมคนนี้ก็ พัฒนาตัวเองขึ้นมากแล้วด้วยครับ


ผมมานั่งคิด นอนคิด ผมก็ผิดเหมือนกันแหละครับ

เยอะด้วย! ^^




17 ม.ค. 48
อายกลางห้าง เคยมั้ย?

โครตจะอายเลยหละ ก็ไปกินข้าวอยู่ดีๆ แล้วก็ไปซื้อน้ำ พอมานั่งกินต่อซักหน่อย ก็หยิบแก้วน้ำมาดูดได้นิดเดียว พอวางแก้วเท่านั้นหละ แพละ (แก้วพลาสติก) ดังมากๆ น้ำนี้ กระจายเต็มเลย คนเค้าหันมาดูทั้งที่กินอาหารเลยมั้ย แบบหยังกะทำอารายลงปายอะ โครตอายเลย แม่ง เซ็งจริงจรีง




28 ม.ค. 48
วันวิชาการ อีกแล้ว ครับท่าน

เย้ๆๆ ในที่สุด ก็ถึงวันนี้ซะที วันที่รอคอยมานานแสนนาน........
วันนี้หนุกมากเลยอะ ตอนเช้าเข้าแถวสาย (ตามเคย) แต่ก็ไม่เป็นไร ได้ดูเขาร้องเพลงลูกทุ่งอีกรอบ (เหมียนกะวันมิวสิกไนท์) สนุกมากๆ ชอบเพลงเนี้ย เพลงหางเครื่อง อะ

สิ่ง ที่ฉันคิด
สิ่ง ที่ฉันฝัน
สิ่ง ที่ฉันเฝ้ารอ
หรือสิ่ง ที่ฉัน พอใจ
สิ่ง ที่ฉันเห็น
สิ่ง ที่ฉัน สัมผัส
สิ่ง ที่ฉัน ลิ้มลอง
หรือสิ่ง ที่ฉันทำไป
จะต้องเป็นจริงได้
ฉันต้องโด่งดัง ไกล
แต่ไฉน ใครใครเห็น
เป็นภาพ ลวงตา..

ดนตรี นั้นคือชีวิต
จังหวะคอยลิขิต
ให้ชีวิต ก้าวไป
แสงสี ที่สวยสดใส
นั้นเป็นจิตใจที่สดใสเสรี
เสียงปรบ มือ
คือกำลังใจ
ที่ต่อสู้ไป
อย่าได้ ถอยหนี
ความภาค ภูมิใจ ที่มี
เกียติยศ ศักดิ์ศรี
จากพวง มาลัย..
(ซ้ำ)

เสียดายไม่มีร้องคอรัสอะ อยากดูไอ้บัลจี้ร้องมากๆ เลย Music is my life. แล้วก็พอดูลูกทุ่งเสร็จ ก็ไปช่วยจัดซุ้มคณิต ของเจ้แหม่มอะ โห หนุกมากๆ เห็นเขาเอาเข็มติดไม้ยาวแทงลูกโป้งไม่เข้าซักที มันส์ พอดีเพื่อนมันเอา Notebook มา แต่ก็อย่างที่รู้อะ ลำโพงมันไม่ใหญ่ เลยต้องไปจิ๊กของห้องคอมมา ฟังเพลงมันส์มาก เสร็จจากนี้แล้วก็ไปคุมโกะต่อ วันนี้โชคดีมากๆ เลยหละ พี่นนท์มาด้วย นานๆ มาทีนะ แต่ไม่ได้เล่นกะเค้าหรอก ดูบันทึกหมากเอาอะ หนุกมากๆ

แล้วก็ไปตรวจร่างกายอะ เป่าลมสุดแรงเกิดเลย อย่างอื่นค่อนข่างดี แต่เสียดายตรงความอ่อนตัว คงติดพุงมั้ง เลยได้แย่อะ

ชอบตอนประกวดลูกทุ่งอะ สนุกมากๆ แม้ห้องเราจะไม่ได้แชมป์ แต่ก็ดีใจที่เห็นเพื่อนๆ เต้น น่ารักมากๆ เลย

แหม พอจบจากดูลูกทุ่งแล้ว ขึ้นไปได้เล่นโกะพอดี เจอพี่ขวัญ ดีใจมากๆ วันนั้นคุยในเอ็มบอกว่าติดงาน แหม จะทำเซอร์ไพร์สก็บอกมาเหอ

ตอนเย็นั่งรถแดงไปส่งน้องๆ ที่สถานีรถไฟ แต่พอไปถึงก็รู้สึกแปลกๆ เอาอีกแล้ว อาการอย่างงี้ อาการอายสาวนี่หว่า ก็เพราะว่ามีสาวๆ (จากโรงเรียนไหนไม่รู้) นั่งที่หน้าสถานีเยอะแยะไปหมด หยั่งกะรอรถโรงเรียนหนะ แฮๆ อาการกำเริบ

ส่งน้องขึ้นรถไฟล่วงหน้าเป็นครึ่งชั่วโมง เลยสอนฟูเซกิ (การเล่นโกะช่วงต้นเกม) ไปได้ ความจริงก็เอาจากหนังสือมาอธิบายเนี้ยหละ สนุกมากๆ ครูตุ้ยก็ใจดีมากๆ ด้วย ให้ตังค์นั่งรถกลับ กะน้ำโค้กอีกกระป๋อง ใจดีจริงๆ

แต่เรื่องมันไม่ค่อยหนุกก็ไอ่ตอนที่ต้องกลับอะดิ ก็เราไม่ได้ไป แต่อยากไปส่ง แล้วก็นัดแม่ไว้ที่โรงเรียน ก็เลยต้องรีบกลับ เดินไปเรื่อยๆ ดูรถแดงไปเรื่อยๆ ทะมาย มีวิ่งมาตั้งหลายคัน แต่ไม่มีใครรับเราเลย มีตังค์ขึ้นรถนะ เลยต้อง เดิน-วิ่ง ไมโครมาราธอน (ประมาณ 5 โลได้) กลับโรงเรียน สถิติคือ ครึ่งชั่วโมง รู้สึกสถิติไม่ดีเลย แต่ช่างมัน กลับมาถึงแม่ก็มารับ ได้กลับบ้านซะที

เอ่อ พี่เราอีกคน มาจากกทม. บอกว่าโรงเรียนเราคนน่ารักเยอะด้วยหละ ขนาดเหลือแค่นิดเดียวนะ รู้สึกจะชมแกงค์ห้อง 310 นะ ที่มีแจอะ

แล้วเรื่องไม่หนุกก็มาอีกตอนไปกินข้าว วันรับปริญญาคนก็ย่อมมากใช่มะ ที่ร้านอาหารคนเยอะมาก มึดฟ้ามัวดินเลย ไปตอนสองทุ่ม กว่าจะได้กินสามทุ่ม กลับสี่ทุ่มครึ่ง ถึงบ้านห้าทุ่มกว่า ง่วงจังเลย

เอา! ในเมื่อง่วงก็ไปนอนซะสิ เอ่อ ไปนอนละนะ บาย (พูดเองเออเอง สกิลของเรา ไม่หวง)




29 ม.ค. 48
อยากไปแข่งหมากล้อมอะ

ทะมาย ชีวิตมันต้องมีแต่เรื่องอย่างงี้ฟระ

ทุกทีเลยแมร่ง ทะไมต้องติดงานที่มีญาติๆ มาเกี่ยวข้องทุกที

หรือว่าสายจากกทม. เขาไม่อยากให้เราลงแข่ง เลยต้องมาจัดพร้อมวันรับปริญญาอะ (เขียนไม่เป็น เซ็ง) คือหยั่งงี้ พี่เราหอบสังขารมาจากกทม. เพื่อมารับปริญญาที่ชม. วันศุกร์เนี้ย แต่ว่าที่กทม. มีแข่งหมากล้อมวันเสาร์-ทิตย์พอดี แล้วพี่เราจะอยู่เที่ยวชม. ก่อน เราเลยไม่ได้ไปแข่งเลย เสียดายมากๆ ทะมายถึงเป็นอย่างงี้ ชีวิตอันแสนเศร้า




30 ม.ค. 48
รถ โดน ชน

ทะมาย วันนี้จึงแสนเศร้า

เมื่อวาน (ของใครหลายๆคน แต่บางคนก็บอกว่าต้องเป็นวันนี้) ต้องนอน ตี 3 แล้วตื่น 8 โมง ทะมายหนะหรอ ก็พาญาติๆ ไปเที่ยวไนท์บาร์ซา กลับถึงบ้าน ห้าทุ่ม แล้วตามมารยาทเนี่ย ก็ต้องรอญาติอาบน้ำ แล้วนอนก่อนใช่มะ หุๆๆ เลยนั่งดูแมนยูฯ ทะไม่ไอ่รูนี่มันเก่งหยั่งงี้วะ ยิงตั้งสองลูก พอจบแล้วก็ไปอาบน้ำ กว่าจะได้นอนก็อย่างว่า ตีสามหนะ

พอเช้า 8 โมง ก็ต้องตื่น แล้วก็ไปส่งญาติๆ ที่สนามบิน ส่งเสร็จก็แวะโรฯ ขึ้นไปได้นิดหน่อย โดนรถถอยชน โครตเซ็งเลย กลับบ้านมา ก็มานั่งอัพไดเนี่ย ทะไมมันซวยหยั่งงี้วะ




1 ก.พ. 48
โธ่! ให้ตายเถอะ

วันนี้จะเรียกว่าไงดีอะ โชคไม่ดีละกัน
จะว่าดีก็ดีนะ แต่เสียตรงที่เราไม่ทัดสังเกตนิดส์เดียว

ก็วันก่อนๆ โน้นหนะ (หาอ่านได้ในไดเนี้ย) เราไปช่วยน้องๆ ทำงาน แล้วทีนี้กลุ่มของน้องเค้าได้ตัวค์มา เขาก็แบ่งให้เรา แต่ไม่รู้ทะไหร่ เพราะครูเก็บไว้ และบอกว่าจะเอามาเลี้ยงอาหาร 1 มื้อ เป็นการ thank you for help us

เราก็ว่าเอาไงก็ได้ เพราะเราก็ไม่อยากได้ตังค์ซักทะไหร่ (ถ้าได้คงได้ซัก 200-300 มั้ง) แต่ว่าถ้าเลี้ยงข้าวก็ดี จะได้รู้จักครูเยอะขึ้นด้วย ประมาณว่า จะได้เอาใจถูกงั้นเหอะ (ใกล้วันเกิดครูแล้ว)

ตอนแรกครูก็นัดไว้หลายอาทิตย์แล้ว แต่เราก็ไม่ค่อยว่าง เลยเลื่อนมาจนเป็นวันเนี้ย ออกจากโรงเรียนตอน 4.20น.

ครูก็เลยเอารถไปซ่อมก่อน เพราะว่าตัวเบรกมันพัง ทำให้เวลาปล่อยเบรกแล้วไฟแดงเบรกมันยังติดอยู่ ช่างบอกว่าคันเบรกที่ควบคุมไฟมันหัก ช่างเขาก็มาซ่อม ใช้เวลาซักครึ่งชั่วโมงได้มั้ง แล้วครูก็ควักตังค์ให้ช่าง ประมาณ 50 บาท มองไม่ค่อยทัน

พอซ่อมเสร็จ ก็เลยไปห้าง แต่ครูไม่อยากเข้าห้างใหญ่ เพราะว่าเดี๋ยวโดนนักเรียนทั้งหลายหั้งแหล่ที่เห็นเอาไปเมาท์กัน ก็เลยไปห้างใกล้ๆ แทน

ครูก็เลยถามว่าอยากกินอาราย เราก็ไม่รู้ด้วยดิว่าจะเอาอารายดี ครูก็เลยให้เลือกระหว่าง Black Canyon กะ KFC เราก็เลยเลือกอันแรก เพราะไม่เคยกิน แต่รู้สึกว่าเลือกผิดมหันต์เลยหละ เพราะอารายหนะหรอ อาหารแบบ ฝรั่งผสมไทย หยั่งเงี้ย มันไม่อร่อยอะ

ครูก็กินก๋วยเตี๋ยว (55บาท) ส่วนเราไม่รู้กินไรดี เลยเลือกข้าวกะไก่บารืบิคิว (60บาท) พอกินไปได้ซักพัก ก็เลยคุยไปคุยมา เกือบสั่งกาแฟซะละ (ลาเต้ ของโปรด) แต่พอรู้ว่าครูไม่ชอบกาแฟ เลยระงับไว้ก่อน เฮ้อ! เกือบพลาดซะแล้ว

กินเสร็จ ครูควักตังค์ให้ 120 แล้วก็เดินออกจากร้าน แต่ก็ยังไม่อิ่ม เลยไปกิน KFC ต่อ (รู้งี้เลือก KFC แต่แรกดีกว่า) เราเอาไก่ไร้กระดูก 3 ชิ้น (เดี๋ยวนี้ดูชิ้นเล็กลงนะ) ครูเอาอกไก่ สั่งแบบชุด (ชุดเดียว) รวมก็ 100 กว่าๆ กินก็อร่อยเหมือนเดิม

พอกินเสร็จก็ไปกินไอติม Sweensen't ตรงนี้แหละ ที่ผิดสุดๆ ทะไมหนะหรอ ก็เราไม่ได้เข้ามานานมากๆ นานตั้งแต่ตอน 9 ขวบมั้ง ก็เลยไม่รู้ว่าเค้ามีอะไรกันบ้าง พอครูตรงไปก็สั่งตามไอ่ที่มันเป็นแท่งๆ ที่วางอยู่บนโต็ะ ไว้บอกว่ามีอะไรใหม่ๆ บ้าง

พอดีเราทันสังเกตนิดนิง คือ มีอันนึงอะ มองทันแวบๆ ว่ามีสตอเบอร์รี่ กะไอติม (75 บาท หรือเปล่า) แต่ว่าไอ่แผ่นนั้นมันมีสามด้าน แล้วดูทันด้านเดียว ก็นึกว่าครูจะสั่งไอ้อันนั้น ที่ไหนได้ สั่งอีกอัน แต่เรายังไม่รู้ตัว นึกว่าครูสั่งไอ่อันที่เราเห็น แต่ครูเปลี่ยนลูกไอติมเยอะมาก

เราก็เลยดูตามเมนู กะว่าจะสั่งไม่ให้มากกว่าครู หรือถ้ามากกว่าก็ไม่มาก ดูยังไงก็ไม่ถูกใจ แต่อยากกินอันเนี้ย Mars & Me (99บาท) ก็เลยสั่งไป

ที่ไหนได้ พอเขามาเสริฟ ของเรา แก้วโครตใหญ่เลย แต่ของครู แก้วเรียวๆ ตายแล้ว ก็ไอ่ตอนที่เห็นบนแผ่นนั้นมันอยู่บนถาดนี่หว่า แล้วอันนี้มาเป็นแก้ว ไม่เป็นไร เขาอาจใส่แก้วให้กินง่ายๆ ก็ได้ พอกินเสร็จ เหลือบไปดูไอ่แผ่นนั้นอีกที กลายเป็นครูสั่งอัน 39บาท

ตายเลยโห เราสั่งไปโครตแพงเลย โอว! ทะไมมันถึงซวยอย่างงี้ ตายๆๆๆ แต่ก็เห็นครูเค้าไม่ได้ว่าอาราย (เพราะครูคงไม่รู้ราคา อย่างน้อยก็ตอนสั่ง) ก็ไม่รู้ว่าครูจะว่าอะไรป่าว เพราะเรากินโครตแพงเลย

สรุป วันนี้ ถ้าเราต้องจ่ายเอง 60+75+99 (หนักที่ไอติม) คือ ต้องจ่ายตังค์ไป 234บาท โห แพงโครตเลย แค่มื้อเดียวนะเนี้ย

แต่ก็ดี ได้รู้ว่าครูไม่ชอบกาแฟ ชอกโกแลต แล้วก็พิซซ่า จะได้ซื้อของขวัญถูก




06 ก.พ. 48
ไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง

เลือกตั้งกันอีกแล้วหรอ เฮ้อ! ถึงจะยังอายุไม่ถึงอะนะ แต่ก็อยากเลือกจัง พรรคไหนไม่บอกหรอก แต่เราว่านะ ไทยรักไทยเบอร์ 9 ได้เป็นรัฐบาลอีกสมัยแน่ๆ

โอ้ว! ม่ายพูดละ เรื่องการเมือง พูดแล้วปวดหัว ซีเรียส ลุงกะน้าเราทะเลาะกันแทบตาย ก็เพราะเชียร์กันคนละพรรคอะดิ

ตัดผมครั้งสุดท้ายแล้ว ดีใจจัง ต่อไปนี้จะปล่อยยาวเลย แต่ก็คงยาวได้ไม่มากอะ เพราะเดี๋ยวก็เปิดเทอมอีกละ ก็ต้องเข้าจายอะนะ ม.4 มันต้องเรียนหนัก พอเรียนม.5 จบก็เหมือนจบม.6แล้ว เพราะโรงเรียนอยากให้เตรียมตัวเอ็นฯ แต่ช่างมันเหอะ ไม่อยากจะตั้งความหวังไว้สูง แต่ในใจลึกๆ ก็คิดว่าน่าจะติดมช. 90% ส่วนจุฬาฯ ม่ายเอาหรอก ถ้าไม่ได้จริงๆ อย่างไงก็เจริญรอยตามพ่อ (รามฯ)

อนาคตมันไม่แน่นอน ช่างมัน คิดแล้วปวดหัว




10 ก.พ. 48
อายกลางห้าง ภาค 2

วันนี้เป็นวันการศึกษาเอกชนอะ โรงเรียนเอกชนทุกที่เลยปิด แต่เราต้องไปช่วยครูจัดบูทแสดงผลงาน ก็เลยไม่ได้หยุดเหมือนเพื่อน

งานประชุมจัดที่โรงแรงปางสวนแก้ว ที่ติดกะเซ็นทรัลกาดสวนแก้ว (เชียงใหม่) งานมันจัดตั้งแต่กี่โมงไม่รู้ รู้แต่จัดชั้น 4 ห้องตองๆ อะไรเนี้ย จำชื่อไม่ได้

แม่เราก็มาส่งให้ลงหน้าห้าง ตอนนั้นยังเช้าอยู่เลย ห้างยังไม่เปิด ห้างเปิด 10 โมง เลยไม่ได้เข้าประตูหน้าห้าง เพราะว่าถ้าเข้าในห้างจะทะลุถึงถึงโรงแรมได้ง่าย กว่า

เราก็เลยไปยืนรอลิฟท์ แต่กว่าลิฟท์จะมาก็นานมากๆ เราก็เลยตัดสินใจเดินขึ้นทางหนีไฟ แล้วด้วยความที่ไม่สังเกตของเรา ก็เกิดเรื่องเปิ่นๆ ขึ้นจนได้

เรื่องคือว่า ชั้นที่เรายืนรอลิฟท์หนะ คือชั้น G ชั้นใต้ดิน แต่ว่าลิฟท์มันอยูที่โรงจอดรถ ก็เลยเป็น P1 แต่เรานึกว่าเป็นชั้น 1 เราเลยคำนวนดูได้ว่า ต้องขึ้นไปชั้น P8 ถึงจะเป็นชั้น 4 เพราะว่าชั้นในห้าง 1 ชั้น จะทำโรงจอดรถได้ 2 ชั้น

เราก็เลยเดินขึ้นไป พอดีคงจะเดินขึ้นบันไดที่โรงเรียนบ่อย ก็เลยไม่รู้สึกเมื่อยมาก พอขึ้นถึงชั้น P8 (ที่เราคิดว่าเป็นชั้น 4) แต่มันกลับเป็นชั้น 3 ไปได้ แต่เราก็ยังไม่รู้ตัวว่ามันคือชั้น 3 เพราะไม่ได้ดูทางเข้าเลยว่าเขาเขียนไว้ว่าไง (เรามารู้ตอนหลังว่า ชั้นสูงสุดคือ P9 แล้วก็ใช้ทางหนีไฟขึ้นต่อไม่ได้ละ)

พอเข้ามาในห้างได้ เราก็หาทางที่มันทะลุไปโรงแรม แต่หาไม่เจอ เลยมาดูแผนที่ในห้าง แต่ก็ยังไม่เอะใจว่าผิดชั้นอีก ก็เดินวนไปวนมาหาทางเข้าอีกตั้งนาน จนยามมาเจอ ก็เลยบอกว่าไปโรงแรมต้องขึ้นอีกชั้น เท่านั้นแหละ หน้าแตกเพล้งเลย

พอขึ้นไปถึงที่จัดงาน ก็ไปช่วยแก้ไขเว็บนิดส์นึง ก็ใช้ได้ละ โล่งอก คิดว่าเขียนเว็บผิด ที่แท้มีคนมาแก้โค้ดเราแล้วมันแก้ผิด เปลี่ยนนิดหน่อยก็ใช้ได้ แล้วก็ยกหน้าที่ให้ยัยอุ๊กะหนูกิ๊ฟอธิบายไปซะ สบาย

พอก่อนเที่ยง ก็ไปกินข้าว จะว่าข้าวก็ไม่ใช่นะเพราะมันเป็นเส้นๆ ร้านก็ชื่อกินเส้น เพื่อนเราบอกว่ามันเป็นร้านของเพื่อนของเรานั้นหละ (รู้สึกว่าจะเป็น PP) ทะมายเราไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนเราทำร้านนี้ ไม่งั้นขอบัตรลดมาเยอะๆ ละเนี้ย แล้วที่ต้องมากินก่อนเพราะว่าครูประชุมเลิกเที่ยง พอครูต่างโรงเรียนออกมาก็จะได้เสนอผลงานได้

พอตอนบ่าย 2 ก็เก็บของกลับ เรื่องเปิ่นๆ เรื่องที่ 2 ก็เกิดขึ้นละ แต่เราไม่ได้ทำคนเดียวนะ คราวนี้มีเพื่อนด้วย เรื่องก็คือว่า รถรับของมารออยู่ที่ชั้น P9 ที่ชั้นนี้ประตูจะกว้างมากๆ เพื่อจะได้นำของเข้า-ออกได้สะดวก ซึ่งไอ่ชั้นเน้ย ในโรงแรมคือ L1 แต่ว่าบูทที่จัดแสดงอยู่ชั้น L2 ซึ่งเป็นชั้นลอย มันจึงมีแต่บันได ขนาดพื้นเอียงให้ของลงยังไม่มีเลย

แล้วพี่ที่โรงแรมก็ให้รถเข็นกระเป๋ามา 1 คัน เราก็เอาคอมฯ กะแฟ้มเอกสารใส่รถไป แล้วก็จะเดินไปเอาของลงลิฟท์ ครูก็เลยให้ยัยอุ๊เนี้ย มาช่วยเรา เราก็ลากรถไป แล้วก็กดลิฟท์ลง แล้วก็บอกให้อุ๊เข้าไปก่อน แล้วก็กดเปิดประตู (<|>) ไว้ด้วย พออุ๊เข้าไปครั้งแรก ท่าทางว่าจะไม่รู้เรื่อง ไม่กดอะไรซักอย่าง ลิฟท์มันก็ปิดอะดิ ยัยอุ๊ก็ตกใจ เราก็คิดว่าท่าจะต้องได้เรียกลิฟท์ใหม่ซะละ แต่อุ๊ก็กดเปิดได้ทัน

คราวนี้เราเลยบอกให้เปิดค้างไว้ แล้วเราก็เข็นรถเข้าไปในลิฟท์ พอดีว่ายัยอุ๊หนะ มันบ้านนอก ใช้ลิฟท์ไม่เป็น เพราะถ้าจะให้ประตูเปิดก็ต้องกด (<|>) ค้างไว้ชะมะ แต่มันไม่ยอมกดค้างไว้ กดแค่ครั้งเดียว พอรถเข้าไปได้แค่ครึ่งคัน ประตูมันก็หนีบเข้ามา แฟ้มเอกสารก็ตกกระจาย (โชคดีที่คอมฯ ไม่ตก ไม่งั้นตังค์แตะเอียตรุจจีนท่าจะไม่ดหลือ) เราก็นึกว่าอุ๊กดปุ่มผิด ไปกดปุ่มปิด (>|<) แทน เราก็เลยร้องบอกว่า กดผิดๆ ยัยอุ๊ก็ตกใจ กดปุ่มปิดอีก ประตูก็หนีบอีก ดีนะที่ประตูมันเด้งได้ ถ้าประตูเป็นรุ่นเก่านะ เสร็จแน่ๆ

พอเราเข้าลิฟท์ได้อย่างปลอดภัย เราก็ยืนรอ ด้วยความที่ไม่คิดว่ายัยอุ๊มันจะเปิ่นไปมากกว่านี้ เราก็เลยไม่ได้มองว่า ลิฟท์มันขึ้นหรือว่าลง พอประตูเปิด ยัยอุ๊ก็รีบออกไปก่อนเลย เราก็เห็นฝร่างคนหนึ่งยืนหน้าลิฟท์ ก็ไม่ได้เอะใจ เพราะคิดว่าเค้าก็คงรอลิฟท์มา ซึ่งลิฟท์ก็น่าจะเปิดพอดี เราก็เลยเข็นรถออกไป (เก็บของที่ตกแล้ว) พอเราออกมา พร้อมกับที่ฝร่างลงลิฟท์ไปละ เราก็ว่า เอ๋ ทะมายมันไม่คุ้นเลยว้า นี่มันในโรงแรมแล้วนี่หน่า ตอนนั้นงงมาก ทำอะไรไม่ถูกเลย เกือบหลงอยู่ในโรงแรมซะแล้ว พอดียามก็มาบอก แล้วก็ช่วยส่งลงชั้นที่ถูกต้องได้ เฮ้อ! โล่งอก

มารู้ตัวตอนหลังว่า ไอ่ตอนที่เข้าลิฟท์อะ มันกำลังขึ้น เราก็ไม่รู้ แต่อุ๊มันรู้ แล้วมันก็รีบออก ทำให้เราที่ไม่ค่อยจะสังเกตอะไรคล้อยตาม ออกไปด้วยซะเลย สุดท้ายก็หลงทางทั้งคู่

หลังจากที่แยกกันกลับโรงเรียนบ้าง ไปซื้อของบ้าง เราก็เลยลงไปซื้อเทปเพลง แล้วก็ออกมายืนรอรถแดง แต่ทะมาย รถแดงมันไม่ยอมไปที่ที่เราอยากซักกะที เราก็บอกไปว่าจะลงที่ไหน แต่คนขับมันก็บอกว่าไม่ไปทุกคัน สุดท้ายเลยได้เดินจากเซ็นทรัลกลับที่โรงเรียน

ง่วงละ ไปละนะ พรุ่งนี้ต้องสอบอีก หนังสือก็ยังไม่ได้อ่านซักตัวเลย บาย




หมดแล้วจ้า...

No comments:

Post a Comment