May 6, 2015

Noah


ไม่กี่วันก่อนช่อง HBO เอาเรื่องนี้มาฉายครับ ดูจบแล้วคำพูดนี้พุ่งเข้ามาในหัวเลย

God is dead
-- Friedrich Nietzsche

เกริ่นก่อนสำหรับใครที่ไม่คุ้นเคยกับศาสนาคริสต์ เรื่องนี้เล่าถึงช่วงแรกที่พระเจ้าสร้างโลกครับ หลังจากสร้างโลกและสรรพสัตว์ทั้งหลายเสร็จ ก็สร้างมนุษย์คู่แรก (อดัม-อีฟ) ขึ้นมาไว้ในสวนเอเดน โดยให้อิสระทุกอย่างยกเว้นอย่างเดียวคือห้ามกินผลไม้ที่อยู่กลางสวน (ตีความกันว่าคือผลแอปเปิล) ช่วงแรกอดัมกับอีฟก็เชื่อฟังพระเจ้าดีอยู่ แต่ก็โดนงูหลอกให้กินผลไม้นั้น พอพระเจ้าจับได้จึงไล่อดัมและอีฟ (และงู) ออกจากสวนเอเดนไป

เวลาผ่านไปหลายชั่วอายุคน พระเจ้าเห็นว่าโลกเสื่อมโทรมลงมาก จึงต้องการชำระล้างโลกด้วยพลังแห่งน้ำ ก่อนลงมือก็ไปกระซิบบอกโนอาห์ (โคตรเหลนของอดัม-อีฟ) ให้เตรียมตัวรับมือก่อน โดยอย่าลืมพาพวกสรรพสัตว์ไปด้วย โนอาห์เลยต่อเรือยักษ์ตามที่พระเจ้าว่า

จุดแตกต่างจากไบเบิลที่เด่นชัดจุดแรกในเวอร์ชันหนัง คือพระเจ้าไม่ได้พูดตรงๆ กับโนอาห์แต่ใช้วิธีฉายภาพภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นให้ดูในฝันแทน (ถ้าเคยดู Prince of Egypt ปี 1998 จะเห็นว่าพระเจ้าอวตารร่างลงมาเป็นลูกไฟเพื่อพูดคุยกับโมเสสตรงๆ เลย) อันที่จริง หนังเรื่องนี้ทั้งเรื่องไม่ได้แสดงตัวตนหรือคำพูดของพระเจ้าเลย

จุดต่อมาคือมนุษย์ที่โนอาห์พาขึ้นเรือไปนั้น ไม่สามารถมีลูกหลานต่อไปได้ ซึ่งก็กลายเป็นดราม่าหลักของเรื่องเมื่ออิล่า แฟนสาวกับลูกคนหนึ่งโนอาห์ (นำแสดงโดยเฮอร์ไมโอนี่ :P) ที่เป็นหมันมาตั้งแต่เด็ก ดันตั้งท้องบนเรือซะงั้น โนอาห์ซึ่งคิดว่าความเสื่อมใดๆ ในโลกล้วนเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ จึงต้องการฆ่าลูกของอิล่าเสียเมื่อเธอคลอด

การสร้างหนังจากเรื่องราวที่รายละเอียดต้นทางน้อยแบบนี้ (เรื่องของโนอาห์มีไม่ถึงครึ่งของครึ่งในหนังสือปฐมกาล ถ้าเทียบกับโมเสสที่ได้หนังสืออพยพไปทั้งเล่ม) มันต้องมีการตีความแต่งเติมปรับแต่งเนื้อเรื่องไปมาก ตรงนี้เข้าใจและยอมรับได้นะ และหนังที่สร้างออกมาจากการตีความนี้ก็สนุกพอตัวเลยหละ

แต่ดูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า พระเจ้าในหนังเรื่องนี้ ไม่ได้มีพลังอำนาจอะไรเลย

การที่พระเจ้าไม่เคยปรากฎตัวขึ้นมาแม้แต่ครั้งเดียว เราอาจตีความได้ว่าโนอาห์ดันฝันเห็นแฟนตาซีที่น่ากลัวมากๆ แล้วหมกมุ่นกับมันจนต้องสร้างเรือขึ้นมา ไม่จำเป็นต้องมีพระเจ้ามาเกี่ยวข้องเลย (ใครไม่เคยฝันแฟนตาซีน่าตื่นเต้นแบบนี้บ้าง?) พอฝนตกหนักน้ำท่วมก็โป๊ะเชะกับที่โนอาห์กลัวพอดี

ยิ่งพอถึงฉากสุดท้ายที่อิล่าบอกโนอาห์ หลังจากโนอาห์ตัดสินใจไม่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ ปล่อยให้ลูกสาวของอิล่ามีชีวิตต่อไปหลังคลอด และอวยพรให้มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง

The choice was put in your hands because he put it there.
-- Ila, Noah (2014)

ยิ่งแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพระเจ้าก็ได้ หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่ามนุษย์ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าพระเจ้ามีตัวตนจริงหรือไม่ เนื่องจากผลลัพธ์ที่ได้จากการพิสูจน์นี้ ไม่ได้ก่อให้เกิดความแตกต่างต่อสิ่งที่จะเกิดตามมาเลย (ทำนองเดียวกับที่ไอนสไตน์บอกว่าอีเทอร์ไม่จำเป็นนั่นแหละ)

พระเจ้าที่ไร้อำนาจเช่นนี้ ก็คงไม่ต่างจากพระเจ้าที่ตายแล้วอย่างที่นิทเช่บอกไว้

No comments:

Post a Comment